ณ ค่ำคืนอันหนาวเหน็บและเงียบงัน
หญิงสาวร่างผอมบางในชุดสีชมพูแอบย่องปีนขึ้นไปบนหลังคาของวังหลีเซี๋ย หลังจากนางมองไปรอบ ๆ บนหลังคาก็เจอที่ที่พอสำหรับนั่งได้
วันนี้เป็นวันที่องค์จักรพรรดิจะทรงรับสนมเข้าตำหนักและยังต้องทรงรับเข้าตำหนักถึง2นางด้วยกัน
สนมนางแรก ไป๋มู่เหยา เป็นบุตรสาวสุดที่รักของนายพลชั้นนำ อีกนาง หลิวจื้อหลัน พระราชธิดาของอาณาจักรหลิว
สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องทุกอิริยาบถขององค์จักรพรรดิว่าค่ำคืนนี้องค์จักรพรรดิจะเสด็จประทับตำหนักสนมคนไหนก่อน ไม่ว่าองค์จักรพรรดิจะเสด็จประทับตำหนักด้านไหนก่อน จะต้องทรงมีปัญหากับอีกฝั่งแน่นอน
วันนี้นางได้พนันกับหยินซวางว่าองค์จักรพรรดิจต้องเสด็จรับสนมเหยาประทับตำหนักที่วังหลีเซี๋ยก่อน เพราะหลังจากนี้จะต้องทรงพึ่งพาพ่อของนางปกป้องคุ้มกันชายแดน
ส่วนสนมหลิว พระราชธิดาของอาณาจักรหลิวที่ซึ่งห่างจากที่นี่เป็นแสนโยชน์กว่าข่าวสารจะไปถึงก็คงต้องใช้เวลา แต่ถึงอย่างไรอาณาจักรหลิวก็คงไม่ใส่ใจกับเรื่องแค่นี้เพื่อให้เป็นข้อพิพาทของสองอาณาจักร
เงิน10ตำลึงที่พนันกับหยินซวางต้องเป็นของนางแน่นอน
ลู่ยุ๋นหลัวก็หยิบถุงป๊อปคอร์นและเหล้าดอกบัวที่เพิ่งหมักเสร็จ1กาออกมาอย่างสบายใจ ทุกอย่างเตรียมพร้อมเสร็จแล้วนางก็เปิดแผ่นกระเบื้องบนหลังคาออก
ทันทีที่เปิดออกมาก็มีเสียงโพล่งดังออกมา
“อร๊าง... พ่อคนบ้า...”
เสียงนั้นทำให้นางขนลุกซู่ไปทั้งตัว
นางโชคดีจริง ๆ ที่เปิดกระเบื้องหลังคามาก็พบองค์จักรพรรดิกำลังดื่มด่ำกับนางสนมเหยาทั้งทีนางก็ไม่เคยรู้จักกับสนมเหยามาก่อน
ลู่ยุ๋นหลัวยัดป๊อปคอร์นเข้าปากคำใหญ่ นางแอบมองลงไปด้านล่างภายในตำหนัก แต่กลับกลายเป็นว่านางพบแค่ลุงวัยกลางคนพุงพลุ้ยบนเตียงขนาดใหญ่ เมื่อมองเข้าไปอีก ก็เห็นหน้าตาของลุงคนนั้นช่างน่าอัปลักษณ์เสียจริง
ลู่ยุ๋นหลัวรู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันทีทำให้รสชาติป๊อปคอร์นในปากนางที่เคยหวานเริ่มหมดรสชาติและไม่อร่อยอีกต่อไป นี่นะหรือองค์จักรพรรดิ? หน้าตาอัปลักษณ์เกินไปมั๊ย?
แววตาที่กระตือรือร้นของลู่ยุ๋นหลัวก็เริ่มจางหายไป นางตัดสินใจที่จะเลิกแอบมอง เพราะกลัวว่าจะเป็นภาพติดตากลับไป
ในขณะที่นางกำลังจะลุกจากไป เสียงดื่มด่ำขององค์จักรพรรดิก็เงียบลง นางเอะใจ เดี๋ยวนะ? แค่นาทีเดียวเองก็เสร็จแล้ว?
จู่ ๆ นางก็รู้สึกเห็นใจเหล่าสนมขึ้นมา พวกนางช่างน่าลำบากจริง ๆ ในเวลาเดียวกัน นางก็รู้สึกดีใจกับตัวเอง ที่ถูกให้ไปอยู่ตำหนักเย็นตั้งแต่แรก ไม่เช่นนั้นวันวันนางคงต้องต้องมาเฝ้ารอคอยตาแก่วัยกลางคนมาร่วมหลับนอน ถ้าเป็นเช่นนั้นนางยอมหัวโขกกำแพงตายยังจะดีกว่า
เมื่อรู้ตัวว่าไม่ควรอยู่ตรงนี้นานนัก รีบออกจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดจะดีกว่า นางรีบเก็บป๊อปคอร์นและกำลังจะเก็บกาเหล้าดอกบัวของนาง ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงเย็นเยียบลอยมาทางนาง “ทำอะไรน่ะ?”
ลู่ยุ๋นหลัวตกใจกับเสียงนั้นรีบหันตัวเอามือไปปิดปากของผู้มาเยือนพร้อมใช้เสียงต่ำพูดว่า
“ชู่ว! อย่าส่งเสียงดัง!”
“องค์จักรพรรดิกำลังพานางสนมขึ้นสวรรค์ชั้น 7 อยู่ข้างล่าง ถ้าเราถูกเจองานเข้าแน่ ๆ !”
ลู่ยุ๋นหลัวมองไปที่ผู้มาเยือนพร้อมกับส่งสายตาไปยังกระเบื้องหลังคาที่เปิดอยู่ หากมีคนมาพบเจอเข้าจะต้องถูกองครักษ์ตามล่าแน่นอน
ชายผู้มาเยือนขมวดคิ้วสงสัยในหัวเต็มไปด้วยคำถาม องค์จักรพรรดิ? ข้าขึ้นสวรรค์ชั้น 7? เขาไม่ได้กำลังยืนอยู่ตรงนี้รึ? ข้าขึ้นสวรรค์ชั้น 7เมื่อไหร่?
ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?
สายตาเรียบยาวและเย็นชาของเขาภายใต้ท้องฟ้าอันมืดสนิทมองพิจราณาลู่ยุ๋นหลัวอยู่ชั่วครู่
ในค่ำคืนที่หมึกระบายเต็มท้องฟ้าถึงแม้จะมองไม่เห็นใบหน้าของนางชัดแต่ดวงตาของลู่ยุ๋นหลัวกลับส่องสว่างได้อย่างชัดเจน สายลมอันแผ่วเบาทำเขาให้เขาได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยมา
“อร๊าง... คนบ้า…” เสียงผู้หญิงซาบซ่านดังแว่วเข้าหูทั้งสองอย่างไม่คาดคิด
ลู่ยุ๋นหลัวถึงกับขนลุกขนพองไม่คิดว่านางสนมเหยาจะมีวรยุทธิ์บนเตียงซ่อนไว้เป็นไม้เด็ด